วันจันทร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

Cicada จักจั่นเจ้าเอย

สะดุดชื่อตลาดนัดคนเดินแห่งใหม่ของหัวหิน "Cicada" ก็งงนิดๆ ว่า ทำไมถึงเอาชื่อแมลงมาตั้ง เลยแวะเข้าไปดู เว็บ เขาหน่อย และพบว่า ที่ตั้งชื่อนี้เพราะ "จักจั่น" คือ ผู้ขับลำนำแห่งแสงจันทร์ (Cicada: The Choir of Moonshine) โอ้ ฟังดูโก้เก๋ทีเดียวเชียว ชวนให้นึกถึงหิ่งห้อยกับต้นลำพู หรือนิยายของโกวเล้งบอกไม่ถูก หุหุ

และนั่นคือสิ่งที่เจ้าของสถานที่คิดว่า ทุกเส้นเสียงของจักจั่นที่ดังก้องกังวานยามค่ำคืนนั้น เปรียบเสมือนความคิด ความสามารถของปัจเจกชนที่มีอัตลักษณ์ (ลอกคำหรูๆ ของเขามาเลยนะ) แต่บางทีเราก็ต้องศึกษาดูความหมาย "เชิงสัญลักษณ์" ของชาติอื่นด้วย

อย่างในตำนานกรีกโบราณ ไทโธนัส (Tithonus) เจ้าชายที่เกิดไปหลงรักกับนางเทพธิดาอีออส (Eos) ที่ไม่แก่ ไม่ตาย นางไม่อยากให้สามีตายจากไป เลยดั้นด้นไปขอทวยเทพให้มอบความเป็นอมตะ (immortality) ให้สามี เทพก็บันดาลให้ ทว่านางขอแค่ให้เขาไม่ตายอย่างเดียว ลืมขอว่าให้ไม่แก่ด้วย ตาไทโธนัสเลยแก่หง่อมไร้เรี่ยวแรงอยู่ในตำหนักนั่นแหละ นางอีออสสุดรำคาญ ทนไม่ไหว เลยสาปให้ผัวที่เคยรักกลายเป็นจักจั่นไป ฉะนั้น จักจั่นจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของความอมตะแบบอยู่ไปแบบแก่เฒ่าไม่ตายซะทีไปซะ

หรือในญี่ปุ่น จักจั่นคือสัญลักษณ์ของฤดูร้อน แต่ยังหมายถึงความไม่คงทน (evanescence) มาเร็วไปเร็วเหมือนกันด้วย ส่วนในประเทศจีน มีสำนวนว่า "金蝉脱壳" จักจั่นลอกคราบ หมายถึง แอบเล็ดลอดหนีไปอย่างแยบยล อย่างในสามก๊ก ขงเบ้งก็ใช้กลยุทธ์นี้ตอนที่พลาดพลั้งในการศึกเพื่อจะจับตัวสุมาอี้ ขงเบ้งป่วยหนักและรู้ตัวว่างานนี้คงเอาชีวีรอดไม่ได้แน่ เลยสั่งทหารไว้ก่อนเลยว่า ถ้าตนตายไปแล้ว ห้ามทุกคนร้องไห้ และห้ามใส่ชุดไว้ทุกข์ ไม่งั้นจะโดนประหารทันที และทำพิธีสะกดดาวประจำตัวไม่ให้ตกลงจากฟ้า

ทางด้านสุมาอี้ พอเห็นดาวประจำตัวขงเบ้งหม่นลงก็คิดว่า เห็นทีขงเบ้งจะสิ้นใจแล้วเป็นแน่แท้ เลยสั่งยกทัพพร้อมตะลุย แต่ไม่ทันไร ดาวของขงเบ้งกลับสอยกลับขึ้นไปใหม่และสดใสเหมือนเดิม สุมาอี้เลยสั่งเบรกเป็นการใหญ่ ที่ไหนได้ พอความจริงปรากฏ สุมาอี้ถึงกลับประกาศลั่นว่า ”นี่ข้าโดนขงเบ้งมันหลอกอีกแล้วหรือนี่ ตอนมีชีวิตอยู่ยังพอจะคาดเดาได้ แต่นี่ตายไปแล้ว กลับยิ่งคาดการณ์ไม่ได้ใหญ่ เจ้าผู้นี้มันเก่งกาจจริงๆ”

ยังมีนิทานอีสปเรื่องหนึ่ง "จักจั่นกับมด" ในนิทานเรื่องนี้ จักจั่น คือตัวแทนของความเพิกเฉย (ignorance) หรือความไม่แยแส (insouciance) ไม่สนใจใดๆ ทั้งสิ้น ในฤดูร้อนก็เอาแต่ร้องเพลงทั้งวันทั้งคืน ในขณะที่มดค่อยๆ ทะยอยขนอาหารไปกักตุนทีละนิดๆ จนกระทั่งพอถึงฤดูหนาว ตัวเองก็ไม่เหลืออาหารไว้กิน ต้องมาร้องขอความช่วยเหลือกับมด แต่มีหรือที่มดจะให้ยืม ก็เลยประชดไปซะเลยว่า "คราวหน้าก็เต้นระบำไปด้วยซะเลยสิ!"

ที่แย่กว่านั้น (และแย่ที่สุดเลยก็ว่าได้) ถ้าเกิดไปพูดว่า "cicada" (หรือภาษาอิตาลีว่า cicala) ในทัสคานี มันจะกลายเป็น "vagina" ไปนะสิ!

ไม่มีความคิดเห็น: