วันอังคารที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เรื่องลิ้นๆ

ห่างหายมานาน วันนี้ขอเสนอสารพัดคำหรือสำนวนที่เกี่ยวกับ "tongue" หรือลิ้น แต่ด้วยความที่บ้านเราใช้คำว่า "ปาก" มากกว่า "ลิ้น" ฉะนั้น จึงขอใช้คำว่า "ปาก" แทนเพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้นนะคะ

ทุกคนคงคุ้นเคยกับคำว่า sweet tongue ปากหวาน (ใครจะพูดว่าลิ้นหวานละคะ มันชวนให้นึกถึงเรื่องอื่นมากกว่านะ อุอุ) หรือคำว่า sharp tongue ปากจัดกันอยู่แล้ว รู้มั้ยคะว่า ในภาษาอังกฤษยังมีคำศัพท์เกี่ยวกับ "tongue" อีกมากมายที่น่าสนใจ

อย่างเวลาใครที่พูดจาดีมีคารม หรือมีวาทศิลป์ (อย่างพี่มาร์กเป็นต้น) เราจะเรียกคนๆ นั้นว่า silver-tongued แต่ถ้าเป็นคู่ปรับวัยละอ่อนที่ชอบพูดพล่อย พูดมากเนี่ย เราเรียกว่าพวก loosed-tongued และคำนี้ยังใช้เรียกพวกปากโป้ง ปากสว่างด้วยนะคะ

แถมคนประเภทนี้มักมีนิสัยพูดจาหาเรื่องระรานคนอื่นไปทั่ว เขาเรียกว่าพวก tongue-lashing สมควรจะโดนพวก razor tongue พูดจาเชือดเฉือนให้หายเซ่อไปเลย

แต่พูดจาเชือดเฉือนนี่ไม่เหมือนพวก acid tongue ปากร้าย ปากจัด หรือ  rough tongue ที่ชอบใช้วาจาผรุสวาทหยาบคายนะคะ ส่วนพวกผีเจาะปากนี่ คำว่า evil tongue ดูจะเหมาะที่สุด พวกปากชั่วร้าย ปากปีศาจ

ส่วนคนอีกประเภทที่ช่างจ้อ เขาเรียกว่า long-tongued สงสัยลิ้นยาวเลยพูดเยอะมั้ง ฮ่าๆ ไม่เกี่ยวหรอกค่ะ เป็นสำนวนของฝรั่งใช้กันน่ะ แต่ถ้าไม่อยากให้ตัวเองหลุดปากพูดเรื่องอะไรออกมา ก็ต้องรู้จัก bite your tongue นะคะ

เวลาคนที่เขินอาย พูดจาผิดๆ ถูกๆ ตะกุกตะกัก อันนี้เขาเรียกว่า tongue-tied หรือลิ้นพันกันค่ะ แต่ถ้าเกิดไปเจอเรื่องอึ้งตะลึงงั้นจนะพูดไม่ออก เรียกว่า lose your tongue ไปเลย แต่พอตั้งสติและเริ่มพูดจาได้อีกครั้ง แสดงว่า find your togue แล้ว

แต่กรณีที่ปิดปากเงียบ ไม่อยากพูดให้เรื่องแดงออกไป เขามีคำว่า guard your tongue หรือ hold your tongue แต่ถ้าเราจะบอกให้เขาระวังปาก ก็จะใช้คำว่า watch your tongue คล้ายๆ กับ watch your mouth นั่นแหละค่ะ เพราะคุณเผลอหลุดปาก หรือ slip of the tongue ล่ะก็ อาจจะซวยได้

ภาษาอังกฤษถึงมีคำเตือนว่า คนฉลาดเขาถึงเก็บคำพูดไว้กับตัวเอง หรือ A still tongue keeps a wise head. เพราะ Your tongue will get you into trouble. พูดมาก ปากจะมีสีไงล่ะคะ

ยังมีคนประเภท ready tongue หมายถึงคนที่ตอบคำถามได้ฉะฉานคล่องแคล่ว รู้รอบ แต่ถ้าเกิดรู้แต่ติดอยู่ที่ปาก นึกคำไม่ออก ติดอยู่ที่ปากนี่ เขาใช้คำว่า on the tip of the tongue และคนที่สามารถหาคำมาอธิบายคำยากๆ ที่เป็น tongue-twister ได้เนี่ย เรียกว่าเป็นคนที่ get his tongue round something เลยล่ะ

เวลาที่เราจะอธิบายให้อีกคนเข้าใจ เราใช้สำนวนว่า give tongue to someone ก้ได้นะคะ เช่น If you don't understand,I 'll give tongue to you. ถ้าเธอไม่เข้าใจ ฉันจะพูดให้ฟังชัดๆ อีกที

ยังมีสำนวนว่า tongue in cheek หมายถึงพูดจาล้อเล่น แต่ถ้าชักจะหยาบคาย เราเตือนเขาได้เลยค่ะว่า Please keep a civil tongue in your head. อันนี้แบบสุภาพนะ ไม่งั้นก็ shut-up ไปเลย

คนบางคนพูดเร็วมากจนฟังไม่ทัน ฝรั่งเขาเปรียบเหมือนมีสามลิ้นในตัว เขาถึงใช้คำว่า triple tongue อันนี้ยังดีนะคะ ไม่ถือว่าเป็นคำด่า แต่ถ้า double tongue เมื่อไหร่ล่ะก็ เจ้านี่เป็นพวกลิ้นสองแฉก เชื่อไม่ได้! บางคนก็ใช้คำที่บรรยายให้เห็นภาพชัดๆ ว่า forked tongue แบบลิ้นงูที่มีสองแฉก

ประโยคอย่าง His strange behaviours set the tongues wagging. หมายถึง พฤติกรรมเพี้ยนๆ ของเขาทำให้เป็นที่โจษจัน สำนวนว่า set the tongues wagging หรือเริ่มทำให้ลิ้นตวัดเนี่ย ก็หมายถึงเริ่มทำให้คนพูดถึงกันเยอะ หรือจะใช้ว่า on everyone's tongue ก็ได้เหมือนกัน

แล้วเคยเป็นมั้ยคะที่เวลานั่งเฮฮากันอยู่ในวงสนทนา แล้วมีคนหนึ่งเงียบกริบไม่พูดไม่จา เพื่อนๆ กันมักแซวว่า Cat got your tongue? แมวไม่ได้มาคาบลิ้นเพื่อนคนนั้นไปไหนหรอกค่ะ แต่มันเป็นสำนวนภาษาพูดแซวกันเล่น

อีกสำนวนที่อยากฝากไว้คือ leave a taste on the tongue เอาไว้ใช้เวลาชมตอนที่ได้กินของอร่อยจนยังติดอยู่ที่ปลายลิ้นเลย ว่าแล้วไปหาของอร่อยๆ กินดีกว่า :)

ไม่มีความคิดเห็น: