วันพุธที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2555

อายให้ถูกเรื่อง

ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังอุ้มท้อง 5 เดือน ท้องเริ่มใหญ่จนใครเห็นก็รู้ว่าเธอกำลังตั้งท้อง ทุกวัน เธอยังต้องพึ่งรถไฟฟ้าไปทำงาน และแทบไม่มีใครลุกให้นั่งเลย จนกระทั่งวันหนึ่ง มีสุภาพสตรีร่างท้วมนิดๆ ลุกให้เธอนั่ง ในชั่วขณะนั้นเอง คำถามหนึ่งก็ผุดขึ้นในใจเธอ "ผู้หญิงคนนี้แค่ท้วม หรือกำลังมีน้องเหมือนเธอ"

เธอจึงเอ่ยปากถาม และคำตอบก็ตรงตามคาด ผู้หญิงคนนั้นตั้งท้องได้ 2 เดือนแล้ว แต่เธอบอกว่ายินดีลุกให้นั่ง เพราะเข้าใจหัวอกคนท้องดี ตัวเธอเองเพิ่งท้องอ่อนๆ ยังพอจะยืนได้ แต่ท้อง 5 เดือนแบบนี้น่าจะได้นั่งมากกว่า ไม่สมควรยืนโหนราวให้กระเทือนน้องในท้อง

อืม...รู้สึกอึ้งนิดๆ คนสมัยนี้ใจร้ายขึ้น หลายคนบอกว่า คนทำดีน้อยลงเพราะกลัว "คนอื่น" จะมองตัวเองด้วยสายตาแปลกๆ กลัว "คนอื่น" จะมองว่าตัวเองดี กลัว "คนอื่น" จะมองว่าสร้างภาพ

ถือเป็นเรื่องแปลกมากที่คนเราจะ "อาย" เมื่อทำความดี
หรือรู้สึกเป็น "ตัวประหลาด" ท่ามกลางผู้คนหมู่มากที่นิ่งเฉย

การที่คิดแบบนั้นก็เท่ากับทำลาย "ตัวสร้างสุข" ชัดๆ เพราะการทำดีเพียงเล็กๆ น้อยๆ อย่างลุกให้เด็ก คนชรา หรือผู้หญิงท้องนั่ง มันไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรง รอยยิ้มหรือคำขอบคุณที่พวกเขามอบให้อาจตีค่าเป็นราคาไม่ได้ แต่มันอาจทำให้คุณอิ่มเอมใจไปทั้งวัน

หลายคนมักพูดเสมอว่า อยากให้โลกน่าอยู่ขึ้น อยากเห็นสังคมที่ดีขึ้น เราจะไปเรียกร้องให้ใครทำเรื่องใหญ่เรื่องดีที่เปลี่ยนแปลงโลกได้ไง ในเมื่อเรายังไม่กล้าที่จะทำเรื่องดีๆ เล็กๆ น้อยๆ

อย่าอายที่จะทำความดี แต่จงอายที่จะทำเรื่องชั่วช้า
โลกอาจไม่ได้น่าอยู่ขึ้นทันที แต่ใจคุณจะปิติขึ้นทันตาเห็น

ไม่มีความคิดเห็น: